วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

องค์ภูมิพล พ่อหลวงผู้มีแต่ให้

       

พระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานแก่ปวงราษฎรไทยทั้งหลายมีมานานกว่า ๖๐ ปี แห่งการครองราชย์ ในระยะต้นแห่งการ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยสิริราชสมบัตินั้น เป็นพระราชดำริด้านการแพทย์และงานสังคมสงเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากในระยะต้นรัชกาลนั้น กิจการด้านการแพทย์ของไทยยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่าที่ควร และการบริการสาธารณสุขในชนบทยังมิได้แพร่หลาย เฉกเช่นปัจจุบัน
พระราชกรณียกิจช่วงแรกเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๓- ๒๕๐๕ จะเป็นการช่วยเหลือบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้า ไม่มีลักษณะเป็นโครงการเต็มรูปแบบอย่างปัจจุบัน เช่น
       เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓วัณโรค มีอุบัติการณ์สูงและยังไม่หมดไปจากประเทศไทย ปีหนึ่งๆ มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้เป็นจำนวนไม่น้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยมีพระราชปรารภกับหลวงพยุงเวชศาสตร์ อธิบดีกรมสาธารณสุข เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ ความว่า

อาคารมหิดลวงศานุสรณ์
“คุณหลวง วัณโรค สมัยนี้มียารักษากันได้เด็ดขาดหรือยัง ยาอะไรขาด ถ้าต้องการฉันจะหาให้อีก ฉันอยากเห็นกิจการแพทย์ของเมืองไทยเจริญมากๆ”จากนั้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อใช้สร้างอาคาร “มหิดลวงศานุสรณ์” ในบริเวณสถานเสาวภา สำหรับใช้ในกิจการทางด้านวิทยาศาสตร์และ ผลิตวัคซีน บี ซี จี ซึ่งผู้คนยุคนั้นกำลังประสบปัญหาจากวัณโรคอย่างร้ายแรงทรงริเริ่มสร้างภาพยนตร์ขึ้น ที่รู้จักกันในนามว่า “ภาพยนตร์ส่วนพระองค์” จัดฉายเพื่อหารายได้จากผู้บริจาค โดยเสด็จพระราชกุศลนำมาช่วยเหลือพสกนิกรด้านต่าง ๆเช่น สร้างตึกวชิราลงกรณ์สภากาชาดไทย อาคารทางการแพทย์โรงพยาบาลภูมิพล
        
        เมื่อคราวที่โรคอหิวาตกโรคระบาดอย่างรุนแรงในเมืองไทย ซึ่งโรคนี้ต้องใช้ “น้ำเกลือ” เป็นจำนวนมาก แต่ในขณะนั้นการให้ น้ำเกลือแก่ผู้ป่วยมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องสั่งจากต่างประเทศ และน้ำเกลือที่ผลิตได้ในประเทศไทยตอนนั้นยังขาดคุณภาพ จนกล่าวกันว่า “ใส่ใครไปก็ช็อค” จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้มีการศึกษาวิจัยและสนับสนุนในการค้นหาวิธีสร้างเครื่อง กลั่นน้ำเกลือใช้เอง จนมีคุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ และเป็นที่ยอมรับกันจนถึงปัจจุบันนี้
        นอกจากนั้นยังทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง โครงการแพทย์หลวงพระราชทาน “เรือเวชพาหน์” เพื่อใช้เป็นหน่วยเคลื่อนที่รักษาราษฎรที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ตามลำน้ำ โดยพระราชทาน พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการดำเนินการมาจนทุกวันนี้
 “เรือเวชพาหน์”
        ด้วยความห่วงใยในทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์ นับแต่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเด็จเถลิงถวัลยสิริราชสมบัติเป็นต้นมา พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทยากจน อยู่ในภูมิภาคต่างๆ มากกว่าประทับอยู่ในพระราชวังที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้เพื่อทรงค้นหาข้อมูลที่แท้จริงจากประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐประจำพื้นที่ และทรงสังเกตการณ์ สำรวจสภาพทางภูมิศาสตร์ไปพร้อมๆกันด้วย ทั้งนี้เพื่อทรงรวบรวมข้อมูลไว้เป็นแนวทางที่จะพระราชทานพระราชดำริในการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่อไป


โครงการพระราชทานในพระราชดำริที่ทรงพระราชทาน เพื่อช่วยเหลือความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์มีมากมาย ซึ่งข้าพพระพุทธเจ้า จะขอน้อมนำมาเผยแพร่ ในคราวต่อไป


ขอขอบคุณ ข้อมูลและรูปภาพ จากhttp://www.thaigoodview.com


5 ความคิดเห็น:

  1. ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    LONG LIVE THE KING

    ตอบลบ
  2. หนึ่งชีวิต เกิดมาบน แผ่นดินนี้
    สุขทวี เกิดพอเีพียง ตามพ่อสอน
    หากแม้มี ภัยพาล กล้ำกรายมา
    พร้อมยอมพลี ศีรษะนี้ เพื่อพ่อเรา...

    พระคุณของพ่อหลวงไม่มีสิ่งใดที่จะนำมาทดแทนได้ในชาตินี้ พระองค์ทรงมีอำนาจมากมายในแผ่นดิน แต่สิ่งที่พระองค์ทรงใช้ในพระราชอำนาจคือ นำมาใช้เพื่อประโยชน์ของปวงชนชาวไทย ลูกของพระองค์ท่าน...จะมีคนไทยกี่คนที่ได้มองเห็นถึงสิ่งนี้ จะมีคนไทยกี่คนที่ พยายามทดแทนบุญคุณของพระองค์ท่าน...พ่อ ไม่เคยบอกให้เรารักพ่อ...แต่พ่อทำให้เราเห็นว่า พ่อ รัก พวก เรา....

    ตอบลบ
  3. ทรงบรรเทาทุกข์ของปวงราษฎร์
    LONG LIVE THE KING

    ตอบลบ
  4. ฝ่าพระบาทนี้ก้าวเดินไปณ ผืนดินแห่งใด???
    ผืนดินใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทนั้น ก็จะเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

    ตอบลบ
  5. พระองค์ทรงห่วงใยประชาราษฎร์ดุจพ่อห่วงใยลูก

    ตอบลบ